การป้องกันฟิชชิ่งนั้นมีความซัพซ้อนค่อนข้างมาก ซึ่งสิ่งที่มีไม่เพียงพอที่จะบล็อคสิ่งใดก็ตามที่เราคิดว่าเป็นอันตราย เราต้องให้ความรู้แก่ผู้ใช้ที่กำลังถูกกำหนดเป้าหมายตั้งแต่แรก ด้วยความคิดนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่หยุดมองหาอุปกรณ์ป้องกันฟิชชิ่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิธีการและอาจมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เมื่อผู้ใช้ในปัจจุบันมีการกระจายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือธุรกิจขนาดเล็กความท้าทายที่เรากำลังเผชิญสะท้อนถึงการกระจายของพวกเขา เราต้องปกป้องผู้ใช้เหล่านี้ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนและสถานที่ใดที่มีการเติมโตที่หลากหลายมากซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานวิจัยล่าสุดบางส่วนแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ของเราถึง 70% ทำงานนอกบริษัทอย่างน้อยสัปดาห์ล่ะครั้งและคนรุ่นมิลเลนเนียล(ยุค80-90)ออกไปทำงานนอกสถานที่ ระยะเวลาที่ออกอาจถึงระดับสูงสุดที่บริษัทอนุญาติ อย่างไรก็ตาม มีรายงานอีกฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าการใช้งานอินเตอร์เน็ตของเราเกือบ 30% จะเลี่ยงผ่านระบบความปลอดภัยทั้งหมด เมื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แล้ว เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าผู้ใช้/ลูกค้าและข้อมูลของเรายังคงความปลอดภัย ดังนั้นเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเราจะปกป้องผู้ใช้เหล่านี้? ผู้ใช้เหล่านี้แต่ล่ะคนมีบทบาทอย่างมากในการทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของธุรกิจในแต่ล่ะวันและเราต้องเริ่มจากผู้คน การสร้างโซลูชั่นที่พวกเขาสามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสนับสนุนพวกเขาในงานนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ว่าอุปกรณ์หรือสถานที่ใดเราสามารถช่วยพวกเขาไม่ให้คลิกฟิชชิ่งหรือดาวน์โหลดภัยคุกคามที่เกิดชึ้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี การทำให้แน่ใจว่าคุณเลือกโซลูชั่นความปลอดภัยที่ถูกต้อง เป็นขั้นตอนที่ยอดเยี่ยมในการดำเนินการป้องกันฟิชชิ่งสำหรับ บริษัท ของคุณ แต่การป้องกันฟิชชิ่งอย่างเดียวไม่เพียงพอ
