- By Brands (86)
- OPT-Solution (5)
- XEN (5)
- DZS (1)
- Plume (3)
- CommScope Ruckus (10)
- WatchGuard (11)
- GFI Software (6)
- Linkyfi (1)
- Webroot (1)
- Classtune (1)
- LevelSync (1)
- HAPYbot (1)
- Planex (2)
- Tactio (15)
- Prospace (9)
- OPT Services (11)
- Exinda (1)
- Arista Mojo (2)
- By Category (80)
- Wireless (18)
- Access Point (9)
- Controllers (1)
- Network Access & Policy (1)
- SPoT Location Systems (1)
- Outdoor Antenna (1)
- DIAG WiFi (2)
- SmartCell Insight (1)
- WiFi Rental (1)
- Wired (17)
- Ethernet Switches (8)
- Ethernet Card (1)
- Media Converter (1)
- Power Over Ethernet (PoE) (3)
- Powerline (1)
- UTP Cables (1)
- Power Cabel (1)
- Exinda Network Orchestrator (1)
- Data Analytics (8)
- Security (16)
- Firewall Appliances (1)
- Cloud and Virtual Firewalls (1)
- Multi-Factor Authentication (1)
- Endpoint Security (2)
- WatchGuard MSSP (1)
- WatchGuard SSL (1)
- WatchGuard BSP (1)
- Firewall Software (2)
- Patch Management (1)
- Email Security (1)
- Firewall Cloud (1)
- FireWall-as-a-Service (FWaaS) (1)
- Collaborative (5)
- Mail Server (1)
- GFI Archiver (1)
- Cloud Storage (1)
- Mail-as-a-Service (Maas) (1)
- Value Added Services (16)
- Training (2)
- GFI Unlimited (1)
- Configuration (1)
- Support (1)
- Professional Services (3)
- Consulting (1)
- Demonstration (1)
- Extended Warranty (1)
- Financial (1)
- Installation (1)
- Network Design (1)
- Spare Part (1)
- Wireless Site Survey (1)
- Wireless (18)
WatchGuard Multi-Factor Authentication
โซลูชั่นการยืนยันตัวตน ในรูปแบบแอพพลิเคชั่น รองรับการใช้งานทั้งบน Apple iOS และ Android
เปลี่ยนสมาร์ตโฟนเป็นอุปกรณ์พิสูจน์ตัวตน ด้วย AuthPoint Multi-factor Authentication จาก WatchGuard
WatchGuard Multi-factor Authentication เป็นการเพิ่มวิธีการยืนยันตัวตนอีกวิธีหนึ่งเข้าไปนอกเหนือจากการใช้ Password เช่น การสแกนบัตรหรือลายนิ้วมือ แต่วิธีที่นิยมที่สุดสำหรับการพิสูจน์ตัวตนออนไลน์คือการใช้ Hardware Tokens หรือ Key Fobs ในการสร้าง One-time Password (OTP) ซึ่งเป็นรหัสผ่านแบบใช้แล้วทิ้งอีกชุดหนึ่งขึ้นมาเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งวิธีนี้ยังคงเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การใช้ Hardware Tokens หรือ Key Fobs เหล่านี้จำเป็นต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ในราคาสูงและเสี่ยงต่อการสูญหาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาและธุรกิจหยุดชะงักตามมา
พิสูจน์ตัวตนง่ายๆ ผ่านทางสมาร์ตโฟน ด้วยแอปพลิเคชัน AuthPoint
WatchGuard ได้ออกแบบและพัฒนาโซลูชัน Multi-factor Authentication ชื่อว่า AuthPoint โดยเปลี่ยนอุปกรณ์พกพาให้กลายเป็นเครื่องมือสำหรับใช้พิสูจน์ตัวตนแทน เพื่อลดภาระของผู้ใช้ในการหาซื้อและดูแลรักษา Hardware Tokens โซลูชันดังกล่าวมาในรูปของแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้งานทั้งบน Apple iOS และ Android บริหารจัดการได้จากศูนย์กลางผ่านระบบ Cloud ส่งผลให้สามารถติดตั้งระบบพิสูจน์ตัวตนบนอุปกรณ์ของพนักงานได้ทั่วโลก รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์บนเครือข่าย บริการออนไลน์ และ Cloud Applications หลากหลาย ที่สำคัญคือราคาย่อมเยาว์เนื่องจากไม่ต้องลงทุนซื้อ Hardware Tokens หรือเซิร์ฟเวอร์สำหรับบริหารจัดการเพิ่มเติม
พนักงานภายในองค์กรสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน AuthPoint ได้ผ่านทาง iTunes Store และ Google Play ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งหมด 11 ภาษา (รวมภาษาไทย) การเริ่มใช้งานก็ทำได้ง่ายเพียงแค่คลิกลิงค์ที่ส่งมาผ่านทางอีเมลเท่านั้น หลังจากนั้นก็สามารถใช้ AuthPoint เพื่อพิสูจน์ตัวตนกับอุปกรณ์และบริการออนไลน์ต่างๆ ได้ทันที นอกจากนี้ ผู้ดูแลระบบยังสามารถติดตามการใช้งาน AuthPoint ของพนักงานได้จากศูนย์กลาง และสามารถจัดทำรายงานสรุปการพิสูจน์ตัวตนที่เกิดขึ้นภายในองค์กรได้อย่างง่ายดาย ในกรณีที่พนักงานทำสมาร์ตโฟนหาย ก็สามารถสั่งยกเลิกการใช้งาน AuthPoint บนสมาร์ตโฟนเครื่องดังกล่าวได้
รองรับอุปกรณ์และบริการออนไลน์หลากหลาย สะดวกสบายด้วยฟีเจอร์ครบครัน
แอปพลิเคชัน AuthPoint รองรับการพิสูจน์ตัวตนทั้งแบบ Online และ Offine รวม 3 วิธี ได้แก่
- Push Messages (Online) – เมื่อล็อกอินเข้าใช้อุปกรณ์หรือบริการออนไลน์ AuthPoint จะแสดงรายละเอียดการล็อกอิน ได้แก่ ชื่อผู้ใช้และสถานที่ล็อกอิน บนสมาร์ตโฟนโดยอัตโนมัติ เจ้าของสมาร์ตโฟนสามารถกดยืนยันการล็อกอินหรือบล็อกการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตผ่านทาง AuthPoint ได้ทันที
- QR Code (Offline) – ใช้กล้องบนสมาร์ตโฟนสแกน QR Code ที่ปรากฏบนหน้าจอ ซึ่ง QR Code ดังกล่าวจะถูกเข้ารหัสและสามารถอ่านได้โดย AuthPoint เท่านั้น จากนั้นให้ใส่โค้ดที่ได้เพื่อทำการพิสูจน์ตัวตนอีกขั้น
- One-time Password (Offline) – ใช้ One-time Password ที่แสดงผลบน AuthPoint ในการล็อกอินเข้าสู่อุปกรณ์หรือบริการออนไลน์ต่างๆ โดย One-time Password นี้จะเป็นแบบ Time-based คือมีอายุการใช้งานเพียง 20 วินาทีเท่านั้น เพื่อป้องกันการแอบนำรหัสไปใช้งานภายหลัง
AuthPoint รองรับการใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ของ WatchGuard และ 3rd Parties หลากหลาย เช่น อุปกรณ์บนระบบเครือข่าย, VPN, Social Media, Web & Cloud Applications รวมไปถึงแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่รองรับมาตรฐาน SAML นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Web Single Sign-on ซึ่งช่วยให้การล็อกอินผ่าน AuthPoint เพียงครั้งเดียวก็สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันและบริการได้ทั้งหมด
AuthPoint ยังมี Agent สำหรับติดตั้งบน PC/Laptop ทั้ง Windows, Mac และ Linux เพื่อให้การล็อกอินเข้าเครื่อง (ไม่ว่าจะเป็นการล็อกอินผ่านหน้าเครื่องโดยตรงหรือ Remote Desktop) เป็นแบบ Multi-factor Authentication อีกด้วย โดยหลังจากผู้ใช้ล็อกอินสำเร็จแล้วจะแสดงหน้าพิสูจน์ตัวตนขั้นที่สองของ AuthPoint ซึ่งรองรับการพิสูจน์ตัวตนทั้งแบบ Push Messages, One-time Password และ QR Code
ในกรณีที่เป็นการล็อกภายในออฟฟิส ผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่า “Safe Locations” เพื่อระบุให้อุปกรณ์ที่อยู่ภายใต้หมายเลข IP ที่กำหนดไม่ต้องพิสูจน์ตัวตนแบบ Multi-factor Authentication ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่พนักงานในองค์กร
ตอบโจทย์การพิสูจน์ตัวตนทั้ง SMB, องค์กรขนาดใหญ่ และ Software House
AuthPoint ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานตั้งแต่ธุรกิจ Startup, SMB ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่และ Software House ซึ่งรองรับการใช้งานใน Use Cases ต่างๆ ดังนี้
- Startup และ SMB ใช้ AuthPoint เพื่อพิสูจน์ตัวตนบน Cloud Applications
- องค์กรและสำนักงานสาขาใช้ AuthPoint เพื่อพิสูจน์ตัวตนพนักงานที่ VPN หรือ Remote Desktop เข้ามาที่สำนักงานใหญ่
- องค์กรที่ต้องการความมั่นคงปลอดภัยในการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ บนระบบเครือข่าย ทั้ง Endpoints, Servers, Network & Security Devices สามารถใช้ AuthPoint เพื่อทำ Multi-factor Authentication ได้
- Software House ให้บริการแแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดยใช้ SDK จาก AuthPoint เพื่อเพิ่มการพิสูจน์ตัวตนแบบ Multi-factor Authentication ให้แก่ลูกค้า
ตัวอย่างการใช้งาน AuthPoint ในรูปแบบต่างๆ ดังภาพด้านล่าง