รู้ไหมว่า MSSP สามารถลดความยุ่งยากในการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันระบบและประหยัดเงินลงทุนได้อย่างไร

เนื่องจากปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยของระบบอาจจะมีราคาที่สูงหากเราต้องการความปลอดภัยแบบเต็มรูปแบบ เช่นการกรองอีเมลล์ การป้องกันผู้บุกรุก(แฮกเกอร์) การป้องกันข้อมูลรั่วไหล ซึ่งการใช้อุปกรณ์ต่างๆเพื่อเพิ่มโซลูชั่นในการป้องกันอันตรายเหล่านี้ จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูงและใช้ความเข้าใจในการจัดการอุปกรณ์ต่างๆให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ทาง Mr.Himanshu Vermaตำแหน่ง Director of Business development จาก WatchGuard  ได้กล่าวถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นผ่านบทความของ ChannelPro Network สามารถอ่านได้ ที่นี่

เมื่อกล่าวถึงระบบป้องกันที่มีความแข็งแรงไม่เพียงพอจนก่อให้เกิดช่องโหว่ต่างๆในระบบตามมา และสาเหตุอาจมาจากการติดตั้งอุปกรณ์มากเกินไปทำให้การจัดการไม่ราบรื่นและเป็นไปตามที่คิดไว้ รวมถึงเกิดจากการตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆที่ไม่ได้เข้าใจการทำงานของอุปกรณ์นั้นดีพอ ซึ่งแต่ล่ะอุปกรณ์มีความสามารถที่แตกกต่างกันไปหากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง อาจจะจัดการได้เพียงแค่ให้มันทำงานได้ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันทำงานดี จนเกิดเป็นช่องโหว่ของระบบ ซึ่งเรามีการตัดบทความบางช่วงจากบทความ Himanshu แสดงถึงขั้นตอนต่างๆที่ MSP สามารถช่วยป้องกันได้ มาดูกันครับ..

ขั้นแรก ต้องมีการระบุขอบเขตของระบบทั้งหมดที่จำเป็นให้ชัดเจนก่อนที่จะนำเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆเข้าไปติดตั้งและทำงานร่วมกับระบบที่ใช้งานปัจจุบัน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้าใจโครงสร้างของระบบทางด้านไอที เช่น Core switch , Access Switch และระบบเครือข่ายไร้สายอื่นๆที่มีในระบบ ซึ่งต้องมีการทำ Network Diagram และการกำหนดขอบเขตของ Securityในส่วนต่างๆให้ชัดเจน จากนั้นบทความบอกถึงการนำแพลตฟอร์ม(Feature) ต่างๆของระบบ Security ที่ตรงกับขอบเขตที่กำหนดไว้ ให้นำมาปรับใช้กับระบบจะทำให้ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจาก Featureต่างๆนั้นมีการนำเทคโนโลยีต่างๆที่ครอบคลุมกับระบบอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันรวมถึงการทำงานในเลเยอร์ต่างๆ ทำให้ระบบมีความสเถียรภาพและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่น การนำชื่อของเว็บไซต์ต่างๆเข้ามารวมเป็นหมวดหมู่เรียกว่า Category , การนำ Mulware ต่างๆที่พบมาทำการวิเคราห์เพื่อแยกความต่างด้วย Signature base ซึ่งการกำหนดรูปแบบเหล่านี้ล้วนใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและใช้ระบบหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพทำงานเป็นเบื้องหลังทั้งสิ้น

หลังจากนำแพลตฟอร์มต่างๆเข้ามาทำงานร่วมกับระบบเครือข่ายที่ใช้งานแล้ว จำเป็นต้องมีการตรวจสอบให้มั่นใจ ว่าได้มีการแบ่งการทำงานของส่วนของระบบต่างๆไว้ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ การแบ่งส่วนของระบบต่างๆออกจากกันโดยใช้วิธีแยกอุปกรณ์หรือแยกสาย(ทางเทคนิคเรียกว่าPhysical) ช่วยให้สามารถแยกส่วนต่างๆได้อย่างชัดเจน ซึ่งก็ยังมีวิธีอื่นๆที่สามารถแบ่งส่วนระบบออกจากกันโดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า VLAN (ในทางเทคนิคเรียกว่า Logical) ก็สามารถแบ่งแยกส่วนของระบบได้เช่นกัน การทำเช่นนี้จะช่วยให้ระบบของคุณมีความปลอดภัยและยังสามารถจำกัดการใช้งานของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี