
ความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยออนไลน์กำลังเพิ่มสูงขึ้น เพราะการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เป็นกรณีที่พบกันได้บ่อยที่สุด เช่น ได้รับจดหมายจากกรมสรรพากรสอบถามเกี่ยวกับการคืนภาษีที่น่าสงสัยซึ่งคุณไม่ได้ยื่น หรือที่เรียกกันว่า การขโมยข้อมูลประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับภาษี
เป็นผลให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกมากกว่าครึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยมากกว่าเมื่อปีที่แล้วถึง 80% ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปมีสิทธิ์ที่จะสงสัยว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้ (personally identifiable data หรือ PII) ได้รั่วไหลลงบนเว็บที่มืดมิดไปแล้วหรือไม่
คำถามเช่นนี้ทำให้คนมากมายกังวลถึงการเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น ที่นี่เราจะอธิบายสิ่งที่แต่ละคนทำ โดยพื้นฐานแล้วโซลูชันป้องกันไวรัสจะป้องกันมัลแวร์และภัยคุกคามทางไซเบอร์อื่น ๆ จากอุปกรณ์ของคุณในขณะที่ VPNs ปิดบังข้อมูลของคุณโดยการเข้ารหัสในทั้งขาไปและขากลับ ในระดับอุปกรณ์และ network
ทำไมถึงต้องมี Antivirus ?
Antiviruses มีความรับผิดชอบหลักในการทำให้อุปกรณ์ของคุณปลอดภัยจากภัยคุกคามต่างๆ ตามคำนิยามมัลแวร์เป็นซอฟต์แวร์ ที่เขียนขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำความเสียหาย นี่คือประเภทของภัยคุกคามที่พยายามทำลาย Antivirus ที่ติดตั้งบน PC Mac และแม้กระทั่งสมาร์ทโฟน เช่นอุปกรณ์ Apple และ Android เช่นกัน
อาชญากรไซเบอร์กำลังปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อโกงเงินและข้อมูลของคุณ พวก Banking Trojans ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อขโมยรายละเอียดทางการเงินของคุณเป็นหนึ่งในตัวอย่างทั่วไปที่เราเห็นเมื่อปีที่แล้ว สปายแวร์ที่ รู้จักกันในชื่อ keyloggers สามารถสำรวจการกดแป้นพิมพ์ของคุณอย่างลับ ๆ และใช้ข้อมูลเพื่อขโมยรหัสผ่านและ PII และมัลแวร์ประเภทใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ cryptojackersสามารถขโมยข้อมูลจากการ Remote จากระยะไกลได้
แต่เครื่องมือป้องกันมัลแวร์ที่ดีซึ่งดูแลอุปกรณ์ของคุณสามารถป้องกันภัยคุกคามเหล่านี้ได้ ซึ่งหมายความว่าการคลิกหรือไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาหนึ่งครั้งไม่ทำให้เกิดความเสียหายใดๆ
“ สิ่งที่น่าอัศจรรย์เกี่ยวกับโซลูชั่นแอนติไวรัสบนคลาวด์” Tyler Moffit นักวิเคราะห์ภัยคุกคามจาก Webroot กล่าวว่า “ แม้ว่าเราจะไม่เคยเห็นภัยคุกคามมาก่อนก็ตาม เราสามารถจัดกลุ่มพฤติกรรมแบบ Real time ได้ที่อาจจะเป็นอันตรายในอุปกรณ์นั้นๆ เราสามารถแจ้งเตือน User ที่อยู่ในเครือข่ายทั้งหมดได้เกือบจะในทันที จากการตรวจจับถึงการป้องกันในเวลาไม่กี่นาที”
ทำไมถึงต้องการความปลอดภัยจากการ VPN?
เราได้ป้องกันอุปกรณ์แล้ว แต่ข้อมูลที่มองไม่เห็นนั้นเดินทางระหว่างคอมพิวเตอร์ของคุณ นั่นคือสิ่งที่การป้องกันระดับเครือข่ายที่มาจาก VPN
ในขณะที่บริการ Free WiFi สามารถเป็นแหล่งรวมอาชญากรรมได้ เป็นเรื่องง่ายสำหรับโจรในการเข้าถึงคุณ เช่น Packet Sniffers เป็นเครื่องมือของผู้ดูแลระบบเครือข่ายในการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตามถ้าเอาไปใช้ในทางที่ผิดพวกเขาสามารถใช้ในการตรวจสอบปริมาณการใช้เครือข่ายบนเครือข่ายไร้สายได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องง่ายที่อาชญากรไซเบอร์ในการใช้กลยุทธ์นี้พวกเขาสามารถควบคุมเราเตอร์เพื่อจุดประสงค์ในการดูและดักจับปริมาณข้อมูลทั้งหมดที่เดินทางระหว่างอุปกรณ์และเครือข่ายที่พวกเขาควบคุมอยู่ในขณะนี้
แม้แต่ WiFi ที่บ้านซึ่งคุณอาจคาดหวังว่าจะได้รับการคุ้มครองจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ที่คุณเลือกใช้เป็นรายเดือน ISP รายเดียวกันนั้นอาจแอบดูข้อมูลของคุณ ด้วยความตั้งใจที่จะขายข้อมูลของคุณก็เป็นไปได้
Webroot ช่วยได้อย่างไร
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ครอบคลุมนั้นเกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลและอุปกรณ์ โซลูชันแอนติไวรัสเพื่อป้องกันมัลแวร์ที่รู้จักและไม่รู้จักเช่นแล็ปท็อป หรือทำให้บัญชีธนาคารของเราเป็น 0 ได้ แต่เพื่อการป้องกันที่สมบูรณ์แบบคุณควรจับคู่แอนติไวรัสของคุณกับ VPN ซึ่งสามารถป้องกันข้อมูลของคุณจากการโจมตีเช่น ISP snooping packet sniffers และเราเตอร์ที่ถูกบุกรุกได้
ที่มาข่าว : Click!!!