
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาแอดมิน ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Webinar “SME Win with Digital Tech” ซึ่งจัดโดยบริษัท ออพติมุส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสถาบันไอเอ็มซี และบริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการระดมความคิดจากผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา มาช่วยให้มุมมองเพื่อคน SME ผ่านแนวคิดที่ว่า “SME จะสามารถเป็นผู้ชนะด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ได้อย่างไร” ในงานมีการพูดถึงไอเดีย วิธีการ แนะนำเครื่องมือต่างๆจากประสบการณ์จริงของวิทยากร ซึ่งแอดมิน เห็นว่าน่าจะได้ประโยชน์จึงได้ลองเรียบเรียงข้อคิดที่ได้ ซึ่งหวังว่าคงจะได้ประโยชน์กับผู้อ่านที่มีเวลาจำกัด แต่ถ้าใครอยากฟังแบบเต็มๆ ก็สามารถดูได้ตามรายละเอียดด้านล่าง
Future SME with Technology
บรรยายโดย : คุณสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล : President Tiger Academy และ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
- เราเองบางทีติดกับดักของความเป็น “ผู้รู้” ทำให้เราเพิกเฉยต่อความรู้ใหม่ๆ แต่ถ้าหากเราฝึกตัวเองเป็น “ผู้ไม่รู้” บ้าง จะทำให้เราต้องฝึก ต้องพยายามหาเหตุในการเติมความรู้เพิ่มอยู่เสมอเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
- แม้การเรียนรู้หลายอย่างจะเจ็บปวด แต่หากเราผ่านพ้นมันไปได้เราจะเติบโตขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะโลกเทคโนโลยียุคใหม่ที่บังคับให้เราต้องเรียนรู้ฝึกฝนตัวเองมากขึ้น ขอบเขตความรู้ก็ต้องกว้างขวางมากขึ้น
- เราไม่ใช่คิดไม่ได้ แต่เราแค่ยังคิดได้ไม่เร็วพอ ไม่กล้าคิดมากพอ โลกทุกวันนี้เดินทางไปเร็วมาก หากเรายังคงมีแต่ Fixed Mindset อยู่ ก็จะทำให้เราไม่สามารถพัฒนาได้เท่าที่ควรจะเป็น
- เทคโนโลยีใหม่ๆจะทำให้กระบวนการในการทำ R&D สั้นลง แต่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากเราสามารถมีข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ ซึ่งในอดีตไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้เทคโนโลยีจะมาช่วยส่งข้อมูลใหม่ๆ ให้เราเพื่อใช้ในการพัฒนาต่อไป
- วันนี้ AI ไปไกลมาก มีเคสที่น่าสนใจผ่านการที่ธุรกิจนำเอา AI มาใช้เช่น ร้านอาหารสามารถจับหน้าของผู้บริโภคเพื่อดูสีหน้า อารมณ์ ท่าทาง ขณะที่ผู้คนรับประทานอาหารกันอยู่ ทั้งนี้เพื่อวิเคราะห์ถึงความชอบ ไม่ชอบในอาหารที่รับประทานเข้าไปได้
- เทคโนโลยีไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่หากเราใช้ไม่เป็น หรือไม่หยิบมาใช้มากพอ เราก็จะโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น
- บนโลกทุกวันนี้ ใครรู้จักลูกค้ามากสุด คนนั้นคือผู้ชนะ
Data Driven : From Collection to Action
- การทำ Data เราสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ SME ทั่วๆไปก็ทำได้ ยังไม่ต้องคิดถึงระบบใหญ่ ระบบที่ซับซ้อน ให้เริ่มต้นที่การเริ่มเก็บข้อมูล และเมื่อมีข้อมูล เราจะสามารถคิดอะไร ทำอะไรต่อยอดไปได้อีกเยอะ
- Starbuck ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ Netflix ก็ไม่ใช่แค่เว็บสตรีมมิ่งหนัง แต่ทั้งหมดที่ว่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทเทคโนโลยี เราชอบกินกาแฟอะไร ซื้อที่ไหน กินกับเบเกอรี่อะไร หรือเราดูหนังอะไร ซีรีย์ฝรั่งเกาหลี ฟอร์เวิร์ตช่วงไหน หยุดตอนใด เขาเก็บข้อมุลเราหมด โดยที่เขาจะนำข้อมูลที่ได้จากเราไปวิเคราะห์และเลือกสิ่งที่เป็นตัวเราแล้วเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดกลับมา เพื่อให้เรายังคงเป็นลูกค้าและอยู่กับเขาต่อไป
- วิธีการได้มาซึ่งข้อมูลของ SME อาจเริ่มต้นด้วยการจดด้วยมือ เขียนง่ายๆผ่านตัวหนังสือก่อนก็ได้ ปัญหาไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เราต้องเริ่มจากคำถามว่า “เราอยากเห็นอะไร อยากแก้ปัญหาธุรกิจในเรื่องใด” หลังจากนั้นเราจะทราบเองว่า เราจะใช้ข้อมูลอะไร และ เก็บข้อมูลอย่างไร ตามมา
- Data Literacy คือความสามารถในอ่านข้อมูล เข้าใจข้อมูล และโต้เถึยงกับข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริหาร และบุคคลากร ใน SME ต้องมี
- อุปสรรคที่สำคัญในการเริ่มต้น ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของ Data เท่านั้น ทุกอย่างที่เป็นสิ่งใหม่มันคือเรื่อง “Resistance to change” (การต่อต้านการเปลี่ยนแปลง) นั่นเอง
Marketing using Big Data: Success story
บรรยายโดย : คุณปฐม อินทโรดม กรรมการ Creative Digital Economy , สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
- เยอรมัน ติดอันดับหนึ่งในงานวิจัยว่าด้วยเรื่อง Global Soft Power Index 2021 ทั้งๆ ที่ไม่ได้เด่นด้านซีรีย์ หนัง หรือเพลง เพราะ SoftPower ที่เราเข้าใจกันไม่ได้มีแค่นั้น ประเทศเยอรมันได้มีการสร้าง Soft Power ในรูปแบบ ของการสร้างความเชื่อมั่นในภาพของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เยอรมันปลูกฝังความคิดที่ว่าสินค้าดี มีเทคโนโลยีชั้นเลิศ ต้องเป็นสินค้าเยอรมัน ซึ่ง เป็นสิ่งที่เราถูกปลูกฝังโดยไม่รู้ตัว อาทิความเชื่อมั่นในรถเบนซ์ หรือ BMW เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการศึกษาที่ประเทศเยอรมันดึงคน ชักชวนคนเข้ามาศึกษาภายในประเทศได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่ง Soft Power ที่สำคัญที่ทำให้เยอรมันเป็นผู้นำจากผลการวิจัยดังกล่าวในที่สุด
- Soft power ที่สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ หนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญมาจาก Big Data จำนวนมหาศาลนั่นเอง ข้อมูลทำให้เข้าใจคน และสามารถตอบสนองความต้องการนั้นได้อย่างดีที่สุด
- ความโชคดีของ SME ทุกวันนี้คือเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล Big Data แบบที่บริษัทใหญ่ๆ ใช้กัน เราสามารถใช้ services ต่างๆ จากเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว มาปรับ ประยุกต์เพื่อเริ่มใช้งานได้เลย เช่น chatbot ซึ่งมีพร้อมใช้งานอยู่แล้ว เราก็แค่เติมแนวคิดลงไปมากกว่าเดิม เช่นไม่ใช้ chatbot เป็นแค่เครื่องมือในการรับออเดอร์ แต่เราสามารถเริ่มเก็บข้อมูลผ่านคนที่เข้าสอบถามพูดคุย หรือซื้อสินค้าเรา ได้โดยตรง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะทำให้เรารู้จักลูกค้ามากขึ้น ได้ฟังเขาพูดถึงสินค้าเรา อันไหนชอบ อันไหนไม่ชอบ เข้าใจเขา และพัฒนา สินค้าที่เหมาะกับเขาต่อไป
- หรือ SME ยังสามารถเริ่มใช้ Line Business Connect ซึ่งมีใช้กันอยู่แล้วผ่านระบบ Line หรือ Application อื่นๆ นอกจากเพื่อเข้าใจลูกค้ามากขึ้นแล้ว ตัว Application เองยังสามารถปรับข้อเสนอตาม Personalized กับผู้ใช้งานแต่ละคนมากขึ้นผ่าน Rich Menu หรือเครื่องมืออื่นๆ เป็นต้น
- Customer Data Platform คือหัวข้อที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงนี้ ซึ่งว่าด้วยเรื่องของลูกค้าและการได้มาซึ่งข้อมูล รวมไปถึงการปรับใช้ข้อมูล โดยจะทำให้เรารู้จักลูกค้ามากขึ้นผ่าน Big Data และเมื่อรู้จักลูกค้าแล้ว การคาดการณ์ การพยากรณ์ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์กับลูกค้าของเรามากขึ้นๆ ตอบสนอง Lifestyle ของเขาที่เปลี่ยนแปลงไป
- Customer Data Platform จะเชื่อมต่อ Data กับระบบต่างๆ โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน Data หลังจากนั้น Business User สามารถใช้งานด้านการจัดการได้เองแบบ Self Service ทั้งนี้เพื่อเชื่อมโยง Personally Identifiable Information จากหลากหลาย ช่องทาง เช่น Website Data, POS Data และ Mobile Application Data เข้าด้วยกัน
How to reach New gen buyer with technology
บรรยายโดย : คุณปฤณ จําเริญพานิช CMO – ProPlugin Co.,Ltd. ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล LINE Certified Coach
- การทำตลาดบนโลกออนไลน์ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ “การเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะกลุ่ม New Gen” ซึ่งกำลังเติบโต และเป็นกำลังหลักของสังคมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป
- กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ยุคใหม่ ต้องไม่เน้นไปที่การตีหัวเข้าบ้าน ขายครั้งเดียวแล้วจบกันไป แต่ต้องเป็นการพัฒนาถึงกระบวนการในการเพิ่ม Customer Lifetime Value เข้าไปในทุกขั้นตอนให้ได้มากที่สุด
- รู้หรือไม่ว่า 5,000 data point คือจำนวนชุดข้อมูลที่โซเชียลมีเดียต่างๆ เก็บข้อมูลเราอยู่ ไม่ว่าเราจะเปิดดูอะไร พูดถึงอะไร ล้วนเป็นข้อมูลทางการตลาดที่สำคัญ
- พบข้อมูลที่น่าสนใจนอกจาก Line, Facebook, Youtube ที่ผู้บริโภคทั่วไปใช้กันอยู่อย่างกว้างขวางแล้ว ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเพิ่มเติมโดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z มีการใช้ TikTok และ Instagram ค้นหาข้อมูลแทนการใช้ Google อีกด้วย
- ประเภทของสื่อที่เราต้องบริหารหรือใช้ให้เป็น ในฐานะที่เราเป็น SME สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ “Owned Media” ซึ่งเป็นสื่อที่เราเป็นเจ้าของเองเช่น Website ของบริษัท “Paid Media” คือสื่อที่เราซื้อเพื่อการโปรโมทพบมากในการใช้งานบน Social Media หรือการซื้อ Banner ในเว็บที่มีคนเข้าใช้มาก และมีเดียอีกประเภทหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันในยุคนี้ได้แค่ “Earn Media” ซึ่ง user ที่เป็นลูกค้าเราเป็นคนทำ content เพื่อ Promote สินค้าให้เรา (Word of Mouth) หรือการที่ User ดูข้อมูลสินค้าเราผ่าน KOL, Influencer หรือ Community ต่างๆ เป็นต้น
ก็จบสำหรับช่วงเช้าก่อนนะครับ
ทั้งนี้ ยังมีเนื้อหาเต็มๆ ของภาคบ่ายที่แอดมินจะขอเขียนต่อ Part 2
อาทิตย์หน้ารับรองเนื้อหาเข้มข้นไม่แพ้ช่วงเช้าอย่างแน่นอน และทั้งนี้หากใครมีมุมมองไหน มาแชร์กันเพิ่มเติมแอดมินก็ยินดีนะครับ
แล้วพบกับตอนต่อไปอาทิตย์หน้าครับ
ติดต่อสอบถามหากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายการตลาดของบริษัท ตามรายละเอียดด้านล่าง
Tel : 02-2479898 ต่อ 87
Email : [email protected]

เรียบเรียงโดย : คุณ วุฒิชัย ปริญญานุสรณ์